ความหมายของรายงาน
รายงาน
คือ
การเขียนเล่าถึงสิ่งที่ได้พบเห็นหรือได้กระทำมาแล้ว เช่น
การค้นคว้า ทางวิชาการ
การไปศึกษานอกสถานที่
การไปพักแรมค่ายเยาวชน
การประชุมกลุ่ม
การประสบเหตุการณ์ที่สำคัญ เป็นต้น
ลักษณะของรายงานคล้ายย่อความ คือเก็บเฉพาะข้อความสำคัญแต่อาจ
เพิ่มเติมรายละเอียดบางอย่างได้ตามสมควร
แบบการเขียนรายงานไม่มีข้อกำหนดตายตัว
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
อาจกำหนดตามแบบของแต่ละสถาบัน
ส่วนต่าง ๆ ของรายงาน มี
3 ส่วน ดังนี้
1. ส่วนหน้า ประกอบด้วย
หน้าปก ใบรองปกหน้า (กระดาษเปล่า)
หน้าปกใน หน้าคำนำ หน้าสารบัญ
2. ส่วนกลาง ประกอบด้วย
เนื้อเรื่อง เชิงอรรถ
3. ส่วนท้าย ประกอบด้วย
บรรณานุกรม ภาคผนวก ใบรองปกหลัง (กระดาษเปล่า) ปกหลัง
การเขียนส่วนต่าง ๆ ของรายงานแต่ละส่วน
1.
การเขียนปกรายงานและการเขียนหน้าปกใน
1.1 การเขียนปก ให้เขียนชื่อเรื่อง และผู้เขียนรายงาน กลางหน้ากระดาษ ไม่ต้องใส่คำว่า ชื่อเรื่อง
และผู้เขียนรายงาน
1.2 การเขียนหน้าปกในให้เขียนโดยแบ่งเป็น 3
ส่วน ดังนี้
ส่วนบน ให้เว้นระยะ
2 นิ้ว จากขอบกระดาษบนถึงบรรทัดแรกของรายงาน และเขียน
ชื่อเรื่องของรายงาน
ใส่เฉพาะชื่อเรื่องที่เขียนรายงาน
ไม่ต้องใส่คำว่า ชื่อเรื่อง
ส่วนกลาง เว้นจากส่วนบนลงมาประมาณ 2
บรรทัดใส่คำว่าโดย
และชื่อผู้เขียนรายงาน ไม่ต้องใส่คำว่า
ผู้เขียนรายงาน
ส่วนล่าง ให้เว้นระยะ
1 นิ้ว
จากขอบกระดาษล่างถึงบรรทัดสุดท้ายของส่วนล่าง
บรรทัดแรกของส่วนล่างระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิชาใด ชั้นอะไร
ภาคเรียนที่เท่าใด ปีการศึกษาใด
ใครเป็นครูผู้สอน
2. การเขียนคำนำ
การเขียน “คำนำ” อยู่ห่างจากขอบกระดาษด้านบน 2
นิ้ว ผู้เขียนรายงานจะระบุวัตถุประสงค์
ขอบเขตของเนื้อเรื่อง
หรือแนวการค้นคว้า
และคำขอบคุณผู้มีส่วนช่วยเหลือให้ การค้นคว้ารวบรวม
และเรียบเรียงรายงานนั้นให้สำเร็จลงด้วยดี เมื่อหมดข้อความแล้วลงชื่อผู้เขียน
วัน เดือน ปี ที่เขียน
ถ้าเป็นรายงานกลุ่มเขียนคำว่า คณะผู้จัดทำ
หน้าคำนำมักนิยมใส่เลขหน้าในวงเล็บไว้ด้านล่าง
3. การเขียนสารบัญ
การเขียน “สารบัญ” ผู้เขียนรายงานจะแบ่งเป็นบท เป็นตอนระบุเนื้อเรื่องที่ปรากฏในรายงาน
เรียงตามลำดับ การเว้นระยะในการเขียนจะอยู่ห่างจากขอบกระดาษด้านบน 2
นิ้ว
และข้อความในสารบัญ จะอยู่ห่างจากริมซ้ายของกระดาษเข้าไป 1.1
นิ้ว เริ่มตั้งแต่
คำนำ บท
และ ชื่อของบท จนถึงส่วนท้าย คือบรรณานุกรม และภาคผนวก
เลขหน้าทางด้านขวามือจะอยู่ห่างจากขอบขวาของกระดาษ 1.1 นิ้ว
ผู้เขียนรายงานต้องทำรายงานเรียบร้อยแล้วจึงจะระบุเลขหน้าได้ว่า บทใด ตอนใด
อยู่หน้าใด
การนำบัตรข้อมูลที่บันทึกตามโครงเรื่องมาเขียนเนื้อหาของรายงาน
การเขียนเนื้อเรื่อง
เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
เพราะผลการค้นคว้ารวบรวมทั้งหมดที่บันทึก
ลงในบัตรบันทึกข้อมูลจะนำมาเรียบเรียงไว้ในส่วนนี้
เรียงตามลำดับโครงเรื่องที่ปรากฏในสารบัญ ครอบคลุมตั้งแต่บทแรกถึงบทสุดท้าย
ในหน้าแรกของเนื้อเรื่องไม่ต้องใส่เลขหน้าเว้นจากขอบบนของหน้ากระดาษลงมา 2 นิ้ว ไว้กลางหน้ากระดาษ
ทุกครั้งที่ขึ้นบทใหม่ไม่ใส่เลขหน้าเฉพาะหน้านั้นแต่ให้นับหน้าด้วย
การเว้นระยะจากขอบล่างขึ้นมา ให้เว้น 1 นิ้ว จากขอบซ้ายของหน้ากระดาษเข้ามาเว้น 1.5
นิ้ว
จากขอบขวาของหน้ากระดาษเข้ามา
เว้น 1 นิ้ว ส่วนการย่อหน้าทุกครั้งให้เว้น 6 ช่วงตัวอักษร เขียนตัวที่
7
การทำบรรณานุกรมท้ายเล่ม
การลงบรรณานุกรม
หากมีเอกสารทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศให้ลงภาษาไทยก่อน เรียงตามลำดับประเภท และในแต่ละประเภทเรียงตามลำดับอักษรผู้แต่ง หรือเรียงตามลำดับอักษรรวมกันไม่แยกประเภท
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.bangkapi.ac.th/MediaOnLine/weerawanWMD/unit6_part16.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น